ฤกษ์พรหมประสิทธิ์หรือว่าฤกษ์เศรษฐี



   ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ หรือฤกษ์เศรษฐี
สมัยก่อนหลวงพ่อฤๅษีท่านต้องไปเทศน์หลายจังหวัด ถ้าทางน้ำก็แจวเรือไป ทางบกถ้ามีเกวียนก็นั่งเกวียน ถ้าไม่มีก็เดินไป หรือบางทีก็นั่งเรือไปครึ่งค่อนทาง แล้วก็ขึ้นบกเดินตัดทุ่งไป ปรากฏว่าเส้นทางที่ท่านไปเทศน์ที่อ่างทอง จะต้องผ่านเพิงขายกล้วยทอดกล้วยแขก ท่านบอกว่าปีแรกผ่านไปตรงนั้นก็ไปขอน้ำเขาฉัน "โยมขอน้ำหน่อย" โยมเขาก็เอาน้ำมาถวาย ปีรุ่งขึ้นก็คืออีกปีหนึ่งถัดไป เพิงกล้วยแขกกลายเป็นตึกสองคูหา..! 

หลวงพ่อไปถามเขาว่า "โยมทำอะไรถึงรวยขนาดนี้ ?" ถ้าสมัยนี้คงไม่แคล้วขายยาบ้า..! โยมบอกว่า "#ได้ฤกษ์เศรษฐีมาจากหลวงพ่อที่วัดมาเปิดร้านเจ้าค่ะ" หลวงพ่อก็สอบถามจนมั่นใจ พอรู้ว่าหลวงพ่ออะไร อยู่วัดไหนก็ตามไป (อันนี้อาตมาไม่ได้ถามรายละเอียด) ตามไปเจอหลวงพ่อองค์นั้น หลวงพ่อฤๅษีก็ถามว่า "ท่านได้ฤกษ์นี้มาจากไหน ขอศึกษาตำรานี้ด้วยได้ไหม ?" หลวงพ่อองค์นั้นบอกว่า "ผมไม่หวงหรอก ผมก็ไม่รู้เหมือนกันฤกษ์นี้มีที่มาอย่างไร ?" #ว่าแล้วก็ไปงัดตำรามาให้เป็นใบลานแผ่นเดียว มีอยู่แผ่นเดียว ข้างหน้าวันหนึ่ง ข้างหลังวันหนึ่ง แสดงว่าเขาเขียนหน้าละวัน แล้วหลวงพ่อท่านนั้นได้มาแค่นั้น หลวงพ่อฤๅษีท่านก็เลยขอจดทั้งหมด แล้วก็เลิกรับกิจนิมนต์จนกว่าจะหาฤกษ์นี้ที่เหลือเจอ
หลวงพ่อท่านเข้ามาหอสมุดแห่งชาติ ค้นกันหูดับตับไหม้จนกระทั่งเจอ แล้วท่านก็เอามาบอกต่อพวกเรา ท่านบอกว่าฤกษ์นี้ถ้าเอาไปทำงานทำการอะไรก็ตาม จะมีความเจริญคล่องตัวมาก เรียกว่า #ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ ก็คือฤกษ์ที่พระพรหมท่านให้มา
แต่คราวนี้ตอนที่หลวงพ่อบอกพวกเรานั้น ท่านบอกไม่ครบ นิสัยหลวงพ่อท่านเป็นคนช่างค้นคว้า หลวงพ่อท่านเรียนหนังสือนักธรรมตรี คนอื่นอ่านหนังสือแค่ ๔ เล่ม ได้แก่ เรียงความแก้กระทู้ธรรม ธรรมวิภาค พุทธประวัติ และพระวินัย แต่หลวงพ่ออ่านหนังสือครึ่งห้อง..!! ท่านบอกว่าตำราอ้างอิงถึงเล่มไหน ท่านไปค้นอ่านจนหมด..!

ในเมื่อท่านชอบค้นคว้าขนาดนั้นท่านก็ค้นจนเจอ แต่ตอนบอกลูกศิษย์ท่านบอกไม่ครบ ท่านอยากรู้ว่ามีลูกศิษย์คนไหนชอบสงสัยค้นคว้าบ้าง แต่ปรากฏว่าทุกคนให้ความเคารพและไว้วางใจหลวงพ่อมาก ให้เท่าไรกูใช้แค่นั้น..!
อาตมาเองแรก ๆ ก็สงสัยเหมือนกัน เพราะมีอยู่ฤกษ์หนึ่งหลวงพ่อท่านให้ฤกษ์ ๑๔ ค่ำวันศุกร์ อาตมาไปค้นดูแล้ว เป็นฤกษ์ที่เขาเรียกว่า วันสมตน แปลว่า เสมอตัว ทำแล้วไม่ดีไม่ชั่ว เจ๊ากันไป
กราบเรียนถามหลวงพ่อว่า ทำไมให้ฤกษ์นี้เขาไป หลวงพ่อบอกว่าบุญเขามีแค่นั้น ถามว่าแล้วให้ที่ดี ๆ ไปเลยไม่ได้หรือ ท่านบอกว่าถ้าเกินบุญเขาจะแย่ ก็สงสัยว่าแย่อย่างไรครับ ของดี ท่านบอกว่าเหมือนเราแบกข้าวสารได้ถังหนึ่ง แล้วเขาโยนมาให้กระสอบหนึ่ง เรารับไหวไหม ? ก็คงโดนทับตายเท่านั้น..!

หลวงพ่อก็สั่งไว้ด้วยว่าวันเสาร์ขึ้น ๕ ค่ำ ห้ามทำการมงคลใด ๆ ทั้งสิ้น ตายละหว่า...แล้วคนที่วันเสาร์ที่เป็นวันลาภวันชัย จะไปทำมาหากินอะไรได้ ในเมื่อหลวงพ่อค้นได้ อาตมาก็เอาอย่างบ้าง ไปค้นจนเจอเหมือนกัน ถึงได้ทราบว่าในแต่ละฤกษ์นั้น จะมีสิทธิโชค มหาสิทธิโชค อมฤตโชค ราชาโชค

แล้วก็จะมีพวกฤกษ์สมตน กาลกิณี มรณะ เมื่อสรุปลงมาอย่างน้อยวันหนึ่งต้องมี ๓ ฤกษ์ ก็คือ สิทธิโชค มหาสิทธิโชค อมฤตโชค ฤกษ์เหล่านี้จะให้ผลในด้านดีเท่านั้น

ส่วนวันห้ามต่าง ๆ ขอให้จำไว้ด้วยว่า
- ถ้าขึ้นบ้านใหม่ให้เว้นวันอาทิตย์ โบราณถือว่าวันอาทิตย์เป็นวันร้อน

- ขึ้นบ้านใหม่ ส่วนใหญ่เขาใช้ฤกษ์วันศุกร์ เดือนคู่ คือ เดือนยี่ เดือน ๔ เดือน ๖ เดือน ๘ ข้างขึ้น เดือน ๑๒
เดือน ๘ ข้างแรม กับเดือน ๑๐ เขาไม่นิยมใช้กัน เพราะถือว่าอยู่ในพรรษา

- ถ้าหากว่าแต่งงานให้เว้นวันพฤหัสบดีกับวันเสาร์ ฤกษ์พวกนี้หลวงพ่อไม่ได้เจาะจง แต่อาตมาเป็นคนช่างจดและก็ช่างจำ หลวงพ่อบอกอะไรจะจดไว้หมด ท่านบอกว่าแต่งงานวันพฤหัสฯไม่เกิน ๓ ปี เลิกกันแน่ ถ้าแต่งงานวันเสาร์ชีวิตจะมีรสชาติมาก เพราะทะเลาะกันทุกวัน ให้เปลี่ยนไปแต่งวันอื่นซะ

- ถ้าหากว่าจะออกรถออกเรือใหม่ ให้ใช้ฤกษ์ออกวันพฤหัสฯแล้วเอาไปประเดิมวันอาทิตย์ หรือว่าออกวันอาทิตย์แล้วเอาไปประเดิมวันพฤหัสฯ อันใดอันหนึ่ง แต่อาตมานิยมให้ออกวันพฤหัสฯแล้วประเดิมวันอาทิตย์ เพราะระยะเวลาไม่ห่างกัน ถ้าออกวันอาทิตย์กว่าจะถึงวันพฤหัสฯ รอตั้ง ๕-๖ วัน

- วันเสาร์ ๕ ห้ามทำการมงคลใด ๆ ทั้งสิ้น ยกเว้นการพุทธาภิเษก

- วันศุกร์ขึ้นหรือแรม ๙ ค่ำ กับวันเสาร์ขึ้นหรือแรม ๘ ค่ำ เป็นฤกษ์สร้างโบสถ์โดยเฉพาะ อย่าเอาไปสร้างบ้านหรือทำสิ่งอื่น

- ฤกษ์ทั้งหลายเหล่านี้ มีชุดหนึ่งที่เรียกว่า ดิถีพิฆาต ไม่ใช่ไม่ดี แต่ดีเกินไป ไม่ควรใช้

หลวงพ่อบอกว่ามีหมอดูอยู่ท่านหนึ่ง อยู่บ้านโพธิ์นางดำ จังหวัดชัยนาท เอาฤกษ์สร้างบ้านวันศุกร์ขึ้น ๙ ค่ำ
หลวงพ่อท่านเห็นก็เตือน บอกว่าฤกษ์นี้เขาใช้สร้างโบสถ์อย่าสร้างบ้านเลย รายนั้นก็รั้น มั่นใจตำราของเขา บอกว่าในเมื่อดีขนาดสร้างโบสถ์ได้ ทำไมจะสร้างบ้านไม่ได้ หลวงพ่อบอกว่าถ้าโยมไม่เชื่อก็รอดูผลแล้วกัน เพราะว่าหลวงพ่อของฉัน(หลวงปู่ปาน) ว่ามาอย่างนี้ หมอดูท่านนั้นก็รับคำท้า

ปรากฏว่าบ้านหลังนั้นพอตั้งเสา ขึ้นเครื่องบน ยังไม่ทันจะมุงหลังคา ท่านบอกว่าพายุมากวาดบ้านหลังนั้นไปหลังเดียว ไม่แตะที่อื่นเลย หมอดูรายนั้นถึงได้ยอมเชื่อ

อาตมาอยากจะบอกกว่า #พวกฤกษ์นี้ก็เหมือนกับการข้ามถนน ถ้าเราข้ามตอนรถว่างปลอดภัยแน่นอน แต่คนเก่ง ๆ รถมากก็ข้ามได้ เพียงแต่ประมาทไปหน่อย เผลอเมื่อไรจะโดนชนเดี้ยง #ถ้าไม่เกินวิสัยถือฤกษ์ไว้หน่อยก็ดี

ฤกษ์ทั้งหลายเหล่านี้ที่หลวงพ่อท่านบอกท่านห้ามไว้ #แปลว่าแต่ละอย่างท่านโดนมาจนเข็ดแล้ว ไม่อยากให้พวกเราต้องไปทดลองด้วยตัวเอง ถ้าใครไม่เชื่อว่าหลวงพ่อโดนจนเข็ดแล้วอนุญาตให้ลองได้ เพราะว่าหลวงพ่อท่านชอบทดสอบมากกว่าพวกเราเยอะ

ฤกษ์ทั้งหลายเหล่านี้ พวกเราศึกษาไว้บ้างก็ดี เนื่องจากว่าถ้าอาตมาเป็นอะไรไป เราจะได้หาฤกษ์เป็น

ฤกษ์พรหมประสิทธิ์ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นและข้างแรม
อาตมาจะเรียง อมฤตโชค มหาสิทธิโชค และสิทธิโชค

วันอาทิตย์จะเป็นฤกษ์ ๘ ค่ำ ๑๔ ค่ำ ๑๑ ค่ำ
วันจันทร์ ๓ ค่ำ ๑๒ ค่ำ ๕ ค่ำ
วันอังคาร ๙ ค่ำ ๑๓ ค่ำ ๑๔ ค่ำ
วันพุธ ๒ ค่ำ ๔ ค่ำ และ ๑๐ ค่ำ
วันพฤหัสบดี ๔ ค่ำ ๗ ค่ำ ๙ ค่ำ
วันศุกร์ ๑ ค่ำ ๑๐ ค่ำ ๑๑ ค่ำ
วันเสาร์ ๕ ค่ำ ๑๕ ค่ำ และ ๔ ค่ำ

ใช้ได้ทั้งข้างขึ้นข้างแรม ไปค้นคว้าหาเอาเอง เผื่อว่าอาตมาจำผิด

อย่างปีนี้รีบ ๆ คิดปรากฏว่าพลาดไปครึ่งปี เลยต้องมาคิดวันใหม่ เนื่องจากว่าปีนี้เป็นปีประหลาด เขาเรียกอธิกวาร มีวันเพิ่ม ก็คือเพิ่มวันแรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๗ มา ถ้าหากว่าเป็นปกติจะไม่มีแรม ๑๕ ค่ำเดือน ๗

เพราะว่าข้างแรมของเดือนที่เป็นเลขคี่ คือ เดือนอ้าย เดือน ๓ เดือน ๕ เดือน ๗ เดือน ๙ เดือน ๑๑ ปกติจะมีแค่แรม ๑๔ ค่ำ เท่านั้น แต่ปีนี้เดือน ๗ มีแรม ๑๕ ค่ำเพิ่มมาวันหนึ่ง

ถ้าหากว่าจะคิดตำราทั้งหลายเหล่านี้ ถ้าขยันก็เอาอย่างอาตมา ไล่ขึ้นแรมไปทีละวัน ถ้าไม่ขยันก็ไปเปิดปฏิทิน ๑๐๐ ปีหรือ ๑๕๐ ปี แต่ว่าเท่าที่อาตมาตรวจดูปฏิทินก็มีผิด เล่มที่น่าจะรอบคอบมากที่สุด คือปฏิทิน ๑๕๐ ปีของห้องโหรศรีมหาโพธิ์ ที่หน้าปกขาว ๆ และมีสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินอยู่ตรงกลาง

#ฤกษ์พรหมประสิทธิ์หรือว่าฤกษ์เศรษฐีของหลวงพ่อ ก็มีความเป็นมาและความเป็นไปด้วยประการฉะนี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เทศน์ ณ บ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๕๒
ที่มา : เว็บวัดท่าขนุน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ผลกรรมหนักที่เกิดจากการฆ่าคนตาย สั่งฆ่า

ระวังไว้เถอะ กรรมที่ฆ่าคนอื่นตายหรือสั่งฆ่าคนอื่น เวรกรรมนั้นรออยู่ในนรก ชั้น สัญชีวมหานรก  ตามการแบ่งของ ไตรภูมิกถา ซึ่งถือเป็น นรกชั...